สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงประกอบพิธี ปล่อยเรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ ลงน้ำ

     พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์มาทรงประกอบพิธีปล่อยเรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ ลงน้ำ ณ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2562 เวลา 10.00 น. โดยมี พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จฯ

     สำหรับการดำเนินโครงการสร้างเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งลำที่ 2 เฉลิมพระเกียรติฯ มีระยะเวลาดำเนินโครงการ 4 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2558 – 2561 แบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยระยะที่ 1 เป็นการจัดหาเฉพาะระบบตัวเรือ จำนวน 1 ลำ ประกอบด้วยแบบและพัสดุในการสร้างเรือ พร้อมระบบสนับสนุนการส่งกำลังบำรุงรวมและการบริการทางด้านเทคนิค ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 – 2561 ระยะที่ 2 การจัดหาระบบควบคุมบังคับบัญชาและตรวจการณ์ และระบบอาวุธ ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ พ.ศ.2559 – 2561 ดำเนินการสร้างเรือ ณ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช โดยการดำเนินงานทั้ง 2 ระยะ ได้ดำเนินการตามแผนเสร็จสิ้นแล้ว จึงกล่าวได้ว่า กองทัพเรือได้ใช้ศักยภาพ และความรู้ความสามารถของกำลังพลกองทัพเรือ ในการดำเนินการติดตั้ง ทดสอบ ได้อย่างเต็มภาคภูมิ แม้ว่าจะใช้แบบเรือของต่างประเทศ แต่ถือเป็นการสร้างเรือขนาดใหญ่ด้วยการพึ่งพาตนเอง โดยอู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช นับได้ว่าเป็นอู่ซ่อมเรือที่มีขนาดใหญ่มากแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถให้บริการซ่อมบำรุงเรือทุกขนาดที่กองทัพเรือมีประจำการ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสมาคมความปลอดภัยทางน้ำ

     “คืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล” คำพังเพยโบราณที่สะท้อนธรรมชาติของท้องทะเลโดยทั่วไป ซึ่งมีความไม่แน่นอนสูง อาจเกิดการแปรเปลี่ยนสภาพแบบผลิกผันขึ้นเมื่อใดก็ได้ จากสภาพคลื่นสงบทะเลเรียบ กลายเป็นความปั่นป่วนจากพายุใหญ่ได้ในเวลาอันสั้น อาจก่อให้เกิดมหันตภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ชนิดตั้งรับแทบไม่ทัน ถ้าผู้เกี่ยวข้องขาดความรู้ความเข้าใจรวมทั้งการเตรียมการตั้งรับที่ดีพอ      ด้วยตระหนักในความจริงดังกล่าวข้างต้น จึงเกิดการรวมตัวกันของผู้ที่ห่วงใยในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในทะเล รวมทั้งในแม่น้ำลำคลองโดยทั่วไปด้วย ซึ่งเท่าที่ผ่านมาได้เกิดความสูญเสียจากภัยพิบัติสารพัดแบบ สาเหตุหลักประการหนึ่งก็คือ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขาดความรู้พื้นฐานในการป้องกันภัยล่วงหน้า รวมทั้งมาตรการในการแก้ไขเมื่อภัยมา สมาคมความปลอดภัยทางน้ำจึงได้ก่อกำเนิดขึ้น เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 โดยมี พลเรือเอก ไพโรจน์ แก่นสาร เป็นนายกสมาคม ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 1122 หมู่ที่ 6 ถ.ท้ายบ้าน ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ      สำหรับวัตถุประสงค์หลักของสมาคมพอสรุปได้ว่า เป็นองค์กรที่เผยแพร่ความรู้และฝึกอบรมเกี่ยวกับความปลอดภัยทางน้ำ ทั้งในด้านการป้องกันและแก้ไข ร่วมงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ ตามโอกาสและศักยภาพที่มีอยู่ เป็นศูนย์รวมการศึกษาค้นคว้า

Read More »

มอบเข็มรักษ์ทะเลยิ่งชีพ แก่ผู้ช่วยผู้ตรวจการลูกเสือ

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยอธิบดีโสภณ ทองดี เป็นประธาน มอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติยศยิ่ง “รักษ์ทะเลยิ่งชีพ” ให้แก่นายหมวดโท วิทวัส ยอแสง ผู้ช่วยผู้ตรวจการประจำสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้ที่ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมรับมอบเงิน 200,000 บาท สนับสนุนเข้ากองทุนสวัสดิการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง น้ำดื่ม 200 แพ็ค และเจลแอลกอฮอล์ 200 ขวด เพื่อนำไปใช้ในการสนับสนุนภารกิจ ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 9 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

Read More »

อธิบดีกรมเจ้าท่า จับมือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หารือการพัฒนาท่าเรือพระราม 5 และท่าเรือพระราม 7

วันที่ 17 มิถุนายน 2563 นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า นำคณะผู้บริหารกรมเจ้าท่า หารือร่วมกับคณะผู้บริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ประเด็นเกี่ยวกับ ท่าจอดเรือไฟฟ้าและการศึกษาวิจัยพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะ (ท่าเรือพระราม 7 และท่าเรือพระราม 5) มีการจัดทำ MOU ความร่วมมือด้านวิชาการและพัฒนานวัตกรรม ระหว่างกรมเจ้าท่าและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า กรมเจ้าท่ามีแนวคิดการปรับปรุงท่าเรือพระราม 5 เนื่องจากเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของรถไฟฟ้าสายสีม่วง และการขนส่งมวลชนกรุงเทพ สามารถเชื่อมต่อการเดินทางได้ในหลายเส้นทาง มีพื้นที่ใช้สอยบริเวณท่าเรือ 167 ตารางเมตร และมีอัตลักษณ์รูปแบบทรงกระเบื้องว่าว มีความสวยงาม สื่อถึงสถาปัตยกรรมในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยระยะเวลาปรับปรุงท่าเรือ 4 เดือน งบประมาณ 4 ล้านบาท และการปรับปรุงท่าเรือสะพานพระราม 7 โดยรูปแบบท่าเรือออกแบบให้สื่อถึงความเป็นการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หรือ EGAT ให้เป็นมากกว่าท่าเรือ สามารถใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำ และรองรับรถไฟฟ้าสายสีชมพู แผนการดำเนินการปรับปรุงเป็นระยะเวลา 5

Read More »